สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

ผลการประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม วันที่ 10 กรกฎาคม 2556

คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ  (กสทช.)
87 ถนนพหลโยธิน 8 (ซอยสายลม) สามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ 10400  
โทรศัพท์ 0-2271-0151 ต่อ 315 -318 โทรสาร : 0-2290-5240  
E-Mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผลการประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม วันที่ 10 กรกฎาคม 2556
    นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ  (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กทค. ได้รับทราบมาตรการเยียวยาผู้บริโภคกรณีคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ที่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (กสท) ให้สัมปทานกับ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัท ดิจิตอล โฟน จำกัด (ดีพีซี) จะสิ้นสุดอายุสัมปทานลงในวันที่ 15 กันยายน 2556 ที่ทาง ทรูมูฟ  ดีพีซี และ กสท. เสนอมาแล้ว โดยได้มอบหมายให้คณะทำงานที่มี ดร.สงขลา วิชัยขัทคะ เป็นหัวหน้าคณะทำงานไปกำหนดมาตรการรองรับผลกระทบที่เกิดจากการสิ้นสุดสัญญาสัมปทานและได้มอบหมายให้ทาง สำนักงาน กสทช. ชี้แจงไปยังผู้ให้บริการทั้ง 3 ราย ให้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้บริการทราบในกรณีที่สัญญาสัมปทานจะสิ้นสุดลงโดยจะให้ผู้ให้บริการส่งข้อความ (SMS) ไปยังผู้ใช้บริการว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรหลังจากสัมปทานคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz สิ้นสุดลง และผู้ใช้บริการต้องสามารถโทรไปสอบถามกับทางผู้ให้บริการได้ในกรณีที่มีข้อสงสัย นอกจากนี้สำนักงาน กสทช. จะติดตามตรวจสอบมาตรการเยียวยาผู้บริโภคในกรณีนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทาง กสทช. จะดำเนินการประชาสัมพันธ์เรื่องดังกล่าวเพื่อให้ผู้บริโภครับทราบข้อมูลที่ถูกต้องต่อไป
              ทั้งนี้ เลขาธิการ กสทช. ได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสารและโทรคมนาคม วุฒิสภา ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ ได้มีข้อซักถามใน 3 ประเด็น ประเด็นแรก คือ กรณี กสทช. รู้ว่าสัญญาสัมปทานจะสิ้นสุดลงนานแล้วทำไมไม่มีการให้เปิดประมูลล่วงหน้าก่อนที่สัญญาสัมปทานจะสิ้นสุด ซึ่งก็ได้มีการชี้แจงในประเด็นนี้ว่า ตามกฎหมายการที่ กสทช. จะให้มีการเปิดประมูลคลื่นความถี่ใดๆ ได้นั้น กฎหมายบังคับให้ กสทช. จะต้องจัดทำแผนแม่บทบริหารคลื่นความถี่ทั้งสามแผน  ได้แก่ แผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ แผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม ให้ แล้วเสร็จก่อนจึงจะมีการเปิดประมูลคลื่นความถี่ได้ ซึ่ง กสทช. หลังจากที่ได้รับโปรดเกล้าแต่งตั้งในวันที่ 7 ตุลาคม 2554 ก็ได้รีบดำเนินการจัดทำแผนแม่บททั้งสามแผนให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด ซึ่งแผนแม่บททั้งสามแผน ก็ได้แล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2555 ซึ่ง กสทช. ก็ได้มีการเปิดให้มีการประมูลคลื่นความถี่ในย่าน 2.1 GHz หรือที่เรียกกันว่าใบอนุญาต 3G ทันที พร้อมกันนี้ในส่วนของคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ที่สัมปทานกำลังจะสิ้นสุดลงในเดือนกันยายน 2556 ซึ่งตามข้อเท็จจริงยังเป็นปัญหาข้อ กฎหมายระหว่างกระทรวงไอซีที และกสทช. ที่ยังไม่มีความชัดเจน ว่าคลื่นความถี่นั้นจะคืนมาที่หน่วยงานใด ทั้งกระทรวงไอซีทีและกสทช. จึงได้ตั้งคณะทำงานร่วมกันในการหาทางออก แต่ก็ยังไม่สามารถหา ข้อยุติในเรื่องดังกล่าวได้ และในส่วนของกระทรวงไอซีทีเองก็อยู่ระหว่างการนำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อใช้อำนาจตามมาตรา 74 ของพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ เพื่อขอขยายระยะเวลาสัมปทานออกไป ดังนั้นการที่จะให้มีการเปิดประมูลคลื่นความถี่ดังกล่าวล่วงหน้าก่อนสัญญาสัมปทานจะสิ้นสุดลงนั้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจดำเนินการได้  ประเด็นที่ 2 กรณีที่มีความเข้าใจว่ามาตรการดังกล่าวเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อ บมจ. กสท โทรคมนาคม (กสท) หรือ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด นั้น เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า (ร่าง) ประกาศ ดังกล่าวเป็นร่างประกาศที่จะมีผลบังคับใช้ทั่วไปกับทุกๆสัญญาสัมปทานที่กำลังจะสิ้นสุดลงทั้งในปัจจุบันและในอนาคตข้างหน้า จึงไม่ใช่ร่างประกาศที่จะใช้บังคับเฉพาะกรณีของ กสท หรือ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด เท่านั้น จึงไม่มีการเอื้อประโยชน์ใดๆ ตามที่เป็นข่าว ประเด็นที่ 3 ร่างประกาศดังกล่าวเป็นการขยายสัมปทานออกไปหรือไม่นั้น เลขาธิการ กสทช. ยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นเพียงมาตรการในการเยียวยาผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากกรณีสิ้นสุดการสัมปทานไม่ได้เป็นการขยายสัญญาสัมปทานแต่อย่างไร       
               ทางด้านนายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รองเลขาธิการ กสทช.) ได้กล่าวถึงมติการประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ว่าเพื่อเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและอุตสาหกรรมต่อเนื่องในกิจการโทรคมนาคมภายในประเทศ ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้ขยายขอบเขตในการส่งเสริมจากเดิมที่ให้เฉพาะผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) : Board of Investment (BOI) เพิ่มเติมเป็นให้ผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สามารถเข้าร่วมได้มาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและอุตสาหกรรมต่อเนื่องในกิจการโทรคมนาคมได้ด้วย
  ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
กลุ่มงานสื่อสารองค์กร สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.)
โทรศัพท์ : 0-2271-0151 ต่อ 315 - 317  โทรสาร : 0-2290-5241